20.10.08

กาแฟสด/fresh coffee

กาแฟสด/fresh coffee

แฟรนไชส์กาแฟสด ผู้ให้บริการเปิดร้านกาแฟสดต้นทุนต่ำแบบมืออาชีพ ฟรีค่าแฟรนไชส์และค่าธรรมเนียมต่างๆตลอดชีพ ฝึกอบรมให้ฟรี
นิยามและความหมายของกาแฟสด
โดยทั่วไปกาแฟสด หมายถึง กาแฟทุกพันธุ์ที่ไม่มีส่วนผสมเจือปนของวัตถุดิบอย่างอื่น และต้องทำมาจากเมล็ดกาแฟ 100% จากไร่ไม่ใช่สังเคราะห์ขึ้นจากห้องทดลอง และต้องเป็นเมล็ดกาแฟสดที่ไม่เก่าเก็บไม่มีกลิ่นหืนหรือมีเชื้อรา คุณสมบัติต่างๆของกาแฟสดจะแตกต่างไปจากกาแฟประเภทอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด รสชาดระหว่างกาแฟสดกับกาแฟสำเร็จรูปหรือกาแฟที่เก่าเก็บจะไม่เหมือนกัน ทั้งความหอม ความนุ่ม กาแฟสดจะให้ความหอมกรุ่น รสนุ่มนวลกว่า ไม่มีกลิ่นหืนหรือรสขมเปรี้ยวเหมือนที่เก่าเก็บ หรือรสชาดออกจะธรรมดาอย่างกาแฟสำเร็จรูปที่จำหน่ายในท้องตลาด ดังนั้นกาแฟสดจึงเป็นเสน่ห์ที่เย้ายวนให้นักดื่มลืมรสชาดไม่ลง ร้านกาแฟสดทั้งหมดจึงใช้กาแฟสดเป็นเมนูหลักของร้าน เหตุเพราะผู้คนส่วนมากโดยเฉพาะที่นิยมดื่มกาแฟเป็นประจำจะต้องเรียกหากาแฟสดเป็นอันดับแรกเมื่อไปที่ร้าน จึงเป็นเสมือนพระเอกหรือตัวเอกของร้านทั่วๆไป ถ้าร้านใดไม่มีกาแฟสดบริการลูกค้าแสดงว่าร้านนั้นไม่ใช่ร้านกาแฟเต็มรูปแบบ จะเห็นว่าผู้คนทั่วโลกยอมรับกาแฟสดมากกว่ากาแฟรูปแบบอื่นๆทั่วไป ถ้ากาแฟสดนั้นปรุงได้รสชาดอร่อยมากๆโดยเฉพาะคอกาแฟต้องชื่นชอบหลงเสน่ห์เย้ายวนความอร่อยของกาแฟสด แทบจะดื่มเป็นเครื่องดื่มประจำไปเลย เครื่องดื่มกาแฟสด หรือ fresh coffeeคำนี้เราจะได้ยินและเห็นบ่อยๆ โดยเฉพาะตามแหล่งต่างๆจะมีร้านกาแฟสดตั้งอยู่แทบทุกแห่ง ซึ่งสามารถหาซื้อได้ง่ายๆ โดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆมีทุกที่บางแห่งในห้างเดียวมีร้านกาแฟสดหลายเจ้า ส่วนใครจะรสชาดดีอย่างไรก็ต้องแข่งฝีมือกันไป นอกจากความนิยมของนักดื่มอยู่ที่รสชาดของความเข้มและอร่อยของกาแฟสดแล้ว เจ้าของร้านจำเป็นจะต้องรู้จักคัดเลือกพันธุ์ที่ให้ความสดจริงๆ นอกจากดูที่พันธุ์แล้ว วิธีการเก็บก็สำคัญไม่น้อยถ้าเก็บไม่ถูกต้องก็จะทำให้เกิดความชื้นขึ้นได้ ซึ่งจะมีผลทำให้รสชาดของกาแฟสดนั้นเปลี่ยนไป ซึ่งรวมไปถึงการเก็บไว้เป็นเวลานานๆก็อาจทำให้รสชาดของกาแฟสดไม่ดีมีกลิ่นหื่นได้ รสไม่หอมกรุ่นนุ่มนวลเหมือนเช่นกาแฟสดๆและใหม่ ซึ่งในส่วนนี้แล้วแต่วิธีการและการประยุกต์ของแต่ละคนว่าจะได้สชาดแบบใด
ดูวิธีการและเทคนิคการทำกาแฟสดให้มีรสชาดดี
กาแฟทั้งหลายแยกเป็นกลุ่มๆ ดังนี้.-
1. กาแฟสำเร็จรูป เป็นกาแฟที่หาทานง่าย ละลายน้ำร้อนก็ดื่มได้เลย แต่ความหอมและความเข้มข้นจะน้อย เนื่องจากผ่านกระบวนการdehydrateทำให้น้ำกาแฟ กลายเป็นผง เพื่อให้บริโภคง่ายนั่นเอง กาแฟสำเร็จรูปมีทั้งชนิดที่บดเป็นผงแล้วพร้อมชงได้เลยและประเภทบรรจุอยู่ในขวดหรือกระป๋องที่เรียกว่ากาแฟกระป๋อง ซึ่งก็เป็นกาแฟสำเร็จรูปอีกชนิดหนึ่ง รสชาดส่วนมากจะปรุงแต่ง แต่ก็ยังคงรสไว้
2.กาแฟโบราณ เป็นกาแฟที่ชงผ่านถุงชง ตัววัตถุดิบนั้นไม่ใช่เมล็ดกาแฟ 100% มักผสมเมล็ดข้าวโพด และอื่นๆ อาจคั่วใส่เนยด้วย โดยมักจะคั่วค่อนข้างไหม้ มีสีดำเข้ม ต้มเป็นหม้อทีละมากๆ ความสดของกาแฟประเภทนี้จะไม่ค่อยสด
3.กาแฟสด เป็นกาแฟที่ทำจากเมล็ดกาแฟ 100% ไม่มีส่วนผสมของอย่างอื่นมาเจือปน แล้วนำเข้าเครื่องชง แต่ก่อนจะผ่านกระบวนการบดต้องคั่วให้ได้ที่ก่อน การจะได้กาแฟสดที่มีรสชาดดีนั้นต้องมีเทคนิคในการทำในแต่ละขั้นตอน โดยเริ่มตั้งแต่การเก็บเมล็ดกาแฟต้องคัดเลือกเมล็ดที่ไม่แก่และไม่อ่อนจนเกินไป หลังจากนั้นนำเมล็ดนั้นมาตากให้แห้ง ก่อนที่จะนำไปคั่วอย่างพิถีพิถัน หลังจากนั้นจึงนำไปบดในเครื่องบดต่อไป ทำได้จากทุกสายพันธุ์ แต่ในประเทศไทยที่นิยมนำมาบริโภคมีอยู่ด้วยกัน 2 พันธุ์หลัก คือ โรบัสต้า และ อราบีก้า
วิธีการชงมีหลากหลายวิธีดังนี้
3.1 การชงผ่านกระดาษกรอง โดยการนำผงกาแฟใส่ในภาชนะที่มีกระดาษกรอง แล้วเทน้ำร้อนผ่าน
3.2 การชงระบบน้ำผ่าน โดยต้มน้ำจนเป็นไอน้ำ แล้วให้ไอน้ำผ่านผงกาแฟ หยดลงมาในภาชนะ
ทั้ง 2 วิธี จะให้รสชาดที่ไม่เข้มข้นมากนัก
3.3 การชงผ่านเครื่องชงระบบความดัน ที่ใช้กันในร้านกาแฟทั่วไป
จะให้รสชาดที่เข้มข้นมากเนื่องจากมีความดันช่วยคั้นเอาความเข้มข้นและความหอมออกจากผงกาแฟ ทำให้มีรสชาดดีที่สุดนะคะ
ทั้งนี้ก็มีปัจจัยจากคุณภาพและชนิดของเมล็ดกาแฟด้วยนะคะ เมล็ดกาแฟแต่ละเบล็นด์ก็จะให้รสชาดที่แตกต่างกันไป โดยวัตถุดิบหลักๆก็จะมีเมล็ดอยู่ 2 พันธุ์ค่ะ
1.พันธุ์ อราบิกา ปลูกมากทางภาคเหนือของไทย ชอบอากาศเย็น เป็นตัวให้ความหอมของกาแฟเป็นกาแฟพันธุ์ที่ดีมากพันธุ์หนึ่ง
2.พันธุ์ โรบัสตา ปลูกทางภาคใต้ ให้ความเข้มข้นของกาแฟ
ดังนั้นแต่ละเบล็นด์ ก็จะมีสัดส่วนของ อราบิกา และโรบัสตา แตกต่างกัน
และระดับการคั่วที่แตกต่างกัน โดยกาแฟคั่วระดับแรกๆ จะมีรสเปรี้ยว ต่อมาก็จะเริ่มมีความหอมเพิ่มมากขึ้นเป็นสไตล์บลูเมาท์เทน เมื่อคั่วเข้มขึ้น ความหอมก็จะลดลง เป็นเอสเปรสโซ เลยจากจุดนี้ไปกลิ่นไหม้ก็จะแรง กว่ากลิ่นกาแฟค่ะ เป็นศาสตร์และเป็นศิลปะขั้นสูงนะคะในการที่จะเบล็นด์ให้ได้มาตรฐาน
ปัจจุบันนิยมนำกาแฟที่คั่วใหม่ๆและบดใหม่ๆ นำมาปรุงเป็นกาแฟเย็นให้ผู้คนทั่วไปได้ดื่มชิมรสชาดของกาแฟแท้ๆใหม่ๆ ซึ่งจะให้ทั้งความหอมกรุ่น ความสด รสชาดดี ซึ่งจะแตกต่างไปจากชนิดผงทั่วๆไป
ความจริงจากโรงคั่ว ชื่อเบลนด์กาแฟ ต่างๆ ในแต่ละโรงงาน เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเองตามสไตล์การคั่ว และสูตรการผสม เมล็ดกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นจาไมกา บราซิลซันโตส ฯ แต่ละโรงงานจะแตกต่างกัน แฟรนไชส์กาแฟบางแห่งชูจุดขายว่าใช้อราบิกา 100% ที่จริงแล้วอราบิกา 100% ชงกาแฟเย็นไม่อร่อย เนื่องจากมีแต่ความหอม แต่ไม่เข้มข้น เบล็นด์ที่ใช้ชงกาแฟเย็น ต้องผสมโรบัสตาด้วยค่ะ กาแฟสดมีที่มา เริ่มต้นจากการเก็บเมล็ดของชาวสวน แล้วนำมาผ่านขบวนการต่างๆจนเข้าสู่โรงงานคัดกรอง เพื่อคัดแยกและดูแลในเรื่องคุณภาพอีกต่อหนึ่ง เพื่อได้กาแฟสดจริงๆให้ผู้บริโภคได้ลิ้มรสชาด ซึ่งขั้นตอนต่างๆกว่าที่จะมาเป็นกาแฟให้เราดื่มกันนั้น ต้องผ่านหลายขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนต้องพิถีพิถันละเอียดในทุกๆจุด ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ เพราะแต่ละพื้นที่ แต่ละประเทศรสชาดไม่เหมือนกัน ซึ่งเกี่ยวข้องหลายปัจจัย ทั้งภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ดิน และอื่นๆหลายอย่าง กว่าจะมาเป็นกาแฟสดรสชาดอร่อยเข้มข้นให้เราดื่มต้องผ่านหลายขั้นตอน เป็นเครื่องดื่มที่นิยมทั่วไป บางคนติดต้องดื่มเป็นประจำ

ที่มา : coffeemade.com